วันและเวลาที่ไม่ได้คาดฝัน คงจะมีใครดลบันดาลให้ได้ไปทำบุญที่เขาใหญ่จึงได้มีโอกาสรู้จักกับ พระอาจารย์หลวงปู่ครูบาโต อนาลโย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระอธิการฉัตรชัย อนาลโย? ท่านมีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับการรวบรวมฤาษีให้เป็นกลุ่มเป็นก้อน และเพ่งกสิณรักษาโรคไมเกรน หรือจะเรียกเป็นภาษาชาวบ้าน ก็คือโรคปวดหัวข้างเดียวอะไรทำนองนั้น ถือว่าเป็นการช่วยเหลืออุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย ให้พ้นทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ

 

 

 

พบท่านใหม่ๆ ก็ได้เริ่มเรียนทำวิธีนั่งสมาธิ ตอนแรกๆ ก็นั่งได้แค่ 5-6 นาทีแข้งขาแทบจะหลุดออกจากกัน เพราะเหน็บชาเริ่มเกาะจนกระดุกกระดิกไม่ได้และได้ฝึกหัดต่อมาเรื่อยๆ จนอาการเหล่านั้นหายไป เริ่มมีพลังจิต ที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวกับสิ่งใดง่ายๆ? สำรวจดูสังขารตัวเองเปรียบเทียบตอนนี้กับสมัยที่ยังเป็นเด็ก ทำไมจึงแตกต่างกันมากขนาดนี้ คิดจะถอยสังขารกลับไปเป็นเด็ก ๆ ก็ทำได้ไม่ ย้อนดูอดีตแล้วกลับมาดูปัจุบัน ไตร่ตรองดูก็เห็นความผิดพลาดหลายอย่าง เกิดความทุกข์ เศร้าและเสียใจ อยากจะถอยเวลากลับไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่ปลง และปล่อยวาง เพื่อเป็นการระงับจิตที่กำลังฟุ้งซ่านนั้น ให้สงบลง
 
ครั้งหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้า นั่งสมาธิอยู่ในถ้ำได้นิมิตไปว่า เห็นตัวเองนุ่งผ้าถุงทอมือย้อมสีคราม ที่ตีนผ้าถุงมีลายมัดหมี่แบบโบราณ ใช้ผ้าขาวม้าพันรอบอก แทนเสื้อยกทรง ข้าพเจ้าตกใจมาก เอ๊ะเรากลายเป็นผู้หญิงได้อย่างไรกัน ผมก็ยาวหน้าอกก็โต คิดในใจว่าพรุ่งนี้คงไม่กล้าไปทำงานแน่ๆ หันไปดูรอบๆบ้านที่อยู่ก็เป็นฟากไม้ไผ่ ฝาบ้านก็เป็นฝาแถบตอง มุงหลังคาด้วยหญ้าคาอยู่บนเนินเขาเล็กๆ มีบ้านอยู่ห่างกันเป็นหย่อมๆ ส่วนใหญ่จะเป็นป่าเป็นเขา ชาวบ้านแถวนั้นพูดภาษาลาวบ้าง ส่วยบ้าง ย้อบ้าง ภูไทบ้างปนกันอยู่ ได้ข่าวว่าที่วัดจะมีการสร้างพระธาตุ โดยมีผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นทหารมาไล่เกณฑ์ผู้คนเพื่อไปเป็นคนงานสร้างพระธาตุ? ซึ่งข้าพเจ้าก็ถูกเรียกตัวไปด้วย  พอไปถึงที่สร้างพระธาตุ ปรากฏว่ามีแต่ผู้หญิง ทั้งสาว ทั้งแก่ ซึ่งทำงานไม่ค่อยจะเป็นเท่าใด ไม่มีอิฐ ไม่มีหิน ไม่มีเหล็ก ไม่มีปูนซีเมนต์? เอายางอะไรก็ไม่รู้เหนียวๆ มาคนเข้ากับดินเหนียว แล้วก็ปั้นขึ้นไปเรื่อยๆ บางครั้นปั้นเสร็จแล้วพังลง ต้องปั้นใหม่ ยางไม้เหนียวติดมือ ติดเสื้อผ้าเลอะเทอะไปหมด คนที่มีลูกมีผัวแล้วไม่อาย ถกผ้าถุงขึ้งเหน็บกระเตี่ยวเหมือนผู้ชาย แถมยัง เปลือยหน้าอกด้วย พวกทหารเห็นข้าพเจ้าฝีมือค่อนข้างใช้ได้ จึงบังคับให้ข้าพเจ้า ทำอยู่คนเดียวจนเสร็จไปซีกหนึ่ง ถึงให้หยุดพัก พระธาตุนี้ขนาดสูงประมาณหลังคาบ้านชั้นเดียวหรือที่เรียกกันว่า เทาว์เฮ้าส์ นั่นแหละ ก่อนกลับมาได้ยินเสียงคล้ายเสียงคนแก่ ดังแว่วตามหลังพูดว่านี่คือพระธาตุป๋านม เด้อ และแล้วข้าพเจ้าก็ได้สะดุ้งออกจากสมาธิ ยังไม่ทันหายเหนื่อยเลย ข้าพเจ้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องนิมิตเห็นแต่สิ่งแปลกๆอยู่เรื่อย
 
จนมาอีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้มีโอกาส พบกับหมอสูตรขวัญ คนหนึ่ง ทำดอกไม้ พานบายศรี ฝีมือดีด้วย ชื่อว่าแม่ศรีพวงทอง แม่ศรีพวงทองเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ เกี่ยวกับพุทธประวัติอย่างละเอียดถี่ถ้วน และสามารถแยกพระธรรมคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ออกมาได้เป็นตอนๆ และตอบปัญหา?
 

 

 

เรื่องธรรมะได้อย่างถูกต้อง เหมือนหมอลำกลอน ในสมัยโบราณอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียวพอแม่ศรีพวงทองเห็นหน้าข้าพเจ้า ก็เดินเข้ามาหาและชวนคุยเรื่องต่างๆหลายเรื่อง แต่สุดท้ายได้พูดเป็นนัยๆบอกว่า ชาติก่อนข้าพเจ้าเคยสร้างพระธาตุพนมตั้งซีกหนึ่ง เมื่อเกิดมาชาตินี้ จะต้องได้สร้างพระมหาเจดีย์อีกแน่นอน 
ครั้นได้ฟังแล้วก็ อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจึงตรงกับที่เคยเห็นในนิมิตพอดี? ข้าพเจ้านั่งไตรตรองอีกครั้งเริ่มจะมีความมั่นใจมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ทีมงานที่ไปร่วมทำบุญวันนั้น มีหลายคนที่ได้ยินด้วยกัน และเป็นพยานได้
 
อีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปกราบนมัสการ หลวงปู่เกลี้ยงที่มีอายุยืนถึง 102 ปี แห่งวัดโนนแกต ต.โนนแกต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งหลวงปู่เณรคำก็ไปด้วย พอไปถึงหลวงปู่เกลี้ยงก็ทักขึ้นทันทีว่า มาแล้วหรือคนผู้นี้ คนนี้แหละที่เคยสร้างวัดสร้างเจดีย์มาหลายภพ หลายชาติแล้ว ?

หลวงปู่เกลี้ยง ยังเล่ากว่าข้าพเจ้า ได้เคยสร้างร่วมกับหลวงปู่เณรคำด้วย และยังได้เปิดเผยปริศนาธรรมว่า? หลวงปู่เณรคำคนผู้นี้แหละ ที่จะได้เป็นพระศรีอาริยะเมตไตรย จึงสรุปได้ง่ายๆว่า หลวงปู่เณรคำก็คือ พระศรีอาริยะเมตไตรยคนเดียวกับพระศรีอาริยะเมตไตรย ที่จะมาเกิดในโลกแห่งอนาคตข้างหน้านั่นเอง

 

ที่มา http://www.sangjedee.com